คุณปู่อุปถัมภ์พันธุ์แซบส์!!
หนุ่มใหญ่ผู้ยังไม่หมดวัยหื่นนน.. จึงแอบหงุดหงิดกับฐานะความเป็น 'คุณปู่' ของตนอยู่นิดๆ
คุณปู่อายุ 50 แล้วไง?
ห่างกัน 30 ปีแล้วไง?
เรื่องมันคงไม่น่าลุ้น ถ้ายัยหลานจอมจุ้นวัยยี่สิบ หน้าประถมแต่นมคัพจีคนนี้จะไม่เซ็กซี่ ขี้ยั่ว จนน่าขยี้..ยับ ... ซะขนาดนี้
เป็น 'ปู่' นานไปมันเลยจะดูไม่ดีๆ ...
งั้น ... งานนี้ขอเปลี่ยนเป็น 'สามี' กันให้เต็มที่ไปเลยก็แล้วกัน!!
………. .⋆。♡
คุณปู่ชาลี
หนุ่มใหญ่ วัย 50 เจ้าของไร่ส้มกว้างใหญ่และเป็นเจ้าของผลิตผลจากน้ำผลไม้ส่งออกชื่อดัง ผู้ที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้วแต่เมียขอหย่า เพราะสนองความต้องการที่มากล้นและล้นเหลือของเขาได้ไม่ไหว เนื่องจากเธอคือคุณหนูลูกผู้ดี ที่มีร่างกายอ่อนแอเป็นทุน ชาลีกับภรรยาจึงไม่ได้มีลูกด้วยกัน แต่ก็ได้อุปการะบุตรสาวของลูกชายของเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทสนมกันทางธุรกิจชาวญี่ปุ่น ที่ลูกชายคนเดียวของเขามาแต่งงานมีภรรยาเป็นคนไทย แต่ได้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตพร้อมกันทั้งคู่ ทิ้งเด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มไว้ให้ดูต่างหน้า เพื่อนรุ่นพี่ของเขาจึงนำตัวหลานสาวกลับไปเลี้ยงที่ญี่ปุ่น เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ที่เมื่อสิบกว่าปีก่อนนี้เกิดภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ตกต่ำอย่างหนัก จึงทำให้ธุรกิจของรุ่นพี่ถูกสั่งฟ้องล้มละลาย เขาผู้นั้นเครียดจัด จู่ๆ ก็หนีหายออกจากบ้านไปและไม่เคยมีใครพบเห็นอีกเลย
ชาลีจึงได้ส่งเสียชารอตต์ รวมถึงดูแลภรรยาของเพื่อนรุ่นพี่คนนี้ผ่านการส่งเงินไปให้อย่างเดียวมาเป็นเวลาหลายปีนับแต่นั้น จนสาวน้อยเติบโตขึ้นมา โดยเขาที่เอง ส่วนใหญ่ก็จะเห็นรูปร่างหน้าตาของเธอผ่านทางหน้าจอดิจิตอลเท่านั้น … จนกระทั่ง!
ชารอตต์
สาวน้อยลูกครึ่ง เด็กสาวในอุปถัมภ์ของชาลี ที่ทั้งสวย ทั้งสดใสและย่างเหยียบวัยยี่สิบมาเมื่อตะกี้ ที่ผู้คนในวงการถ่ายแบบชุดชั้นใน และชุดว่ายน้ำจัดเธอไว้ให้เป็น 'กราเวียร์ตัวท็อป' และทุกฝ่ายต่างก็พร้อมใจพากันตั้งฉายาให้อย่างเหมาะสม กับนิยาม…
‘หน้าประถม..นมคัพจี’ พะนะ!!
ชารอตต์ .. สาวน้อยที่เบื่อหน่ายชีวิตวุ่นวายในวงการมายา กับเหล่าบรรดาสายตาหื่นกระหายของชายมากหน้าที่พยายามทอดสะพานสาดเงินตราซื้อตัวเธอ ชนิดแค่ขอให้ได้อยู่ใกล้ นั่งจับมือมองตาก็เอาล่ะ แต่สาวน้อยไม่เคยยินยอมให้ชายใดได้แตะแม้ปลายก้อย ตากล้องที่จะมาถ่ายชุดว่ายน้ำหรือชุดชั้นในเซ็กซี่ให้เธอได้ต้องล้วนเป็นผู้หญิงเท่านั้น!! ไม่งั้นเธอไม่ยอม .. และเพราะเธอเองก็แค่บังเอิญพลัดหลงเข้ามาในวงการนี้ เพราะเพื่อนซี้สาวดันเป็นตากล้องมือฉมังชื่อดัง ชักชวนเข้ามาถ่ายแบบเล่นๆ เท่านั้น
จากแค่งานอดิเรกสนุกๆ ธรรมดา จนกลายเป็นเรื่องจริงจัง และมันก็ลุกลาม คุกคามความสงบของเธอเกินไปในที่สุด .. ทันทีที่เรียนจบมหาลัย ชารอตต์ตัดสินใจจูบแก้มลาคุณย่า ตั้งใจว่าจะกลับมาอยู่เมืองไทย ไร่นี้ เพื่อใช้หนี้ให้คุณปู่ชาลีที่เธอแอบหลงรักเขาตั้งแต่วัยเด็กโน่นดีกว่า ไม่อยู่แล้วนะญี่ปุ่นที่วุ่นวายกับเหล่าผู้ชายที่ตามกวนใจ
และที่ผ่านมาเธอไม่ยอมให้ชายใดมาแตะต้อง ก็เพราะมีเขาคนนี้แหละเป็นเจ้าของสี่ห้องหัวใจ ซึ่งก็จะเป็นใครไม่ได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่ ..
คุณปู่ชาลี!! ..
อื้มมม .. แล้วงี้เธอจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างนร้าาา ..
ก้มดูนมคัพจี ..
นานิ?
"อ้าว .. เช้านี้ สวินไปไหน? ทำไมชารอตต์ต้องตื่นมาจัดอาหารเอง"
'ชาลี อินทรพิทักษ์เพทาย' พาร่างสูงใหญ่ ไหล่กว้างตรง อกผึ่งผายมาทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้หวาย ที่ซึ่งบนโต๊ะขนาดกลางคลุมผ้าสีครีมอ่อนฉลุลูกไม้รายละเอียดตรงหน้า พร้อมพรั่งด้วยอาหารเช้าริมระเบียงที่ถูกจัดเตรียมอย่างสดใส ประดับด้วยตะกร้าขนมปังอบใหม่หอมกรุ่น จานวางแพนเค้กจัดพูน ครัวซองสอดไส้เบคอนแฮมชีส อบจนเยิ้ม ขนาดพอดีคำ .. ซุปเห็ด แถมทั้งยังจะมีอีกหนึ่งตัวเลือกคือตะกร้าหวายใส่วาฟเฟิล จัดเรียงสวย โถน้ำผึ้ง ถัดไปคือไส้กรอกหมูทอด ไข่ดาวที่ตอกอยู่ในขนมปังเจาะเป็นรูปหัวใจตรงกลางแล้วนำไปอบไฟจนกรอบนิดๆ แฮมแผ่นและชีสฝานบางๆ กระปุกเกลือ พริกไทยที่บรรจุอยู่ในขวดเซรามิกปั้นเป็นคุณตาคุณยายใส่แว่นแสนน่ารัก จาน ช้อน ส้อม มีดเงิน..ขัดจนเงาวับสะท้อนแสงแดดสีทองในยามเช้า
หน้าเก้าอี้ที่ประจำของเขา คือที่วางเอสเปรสโซประดับฟองลอยฟ่องสีทอง ซึ่งกำลังกรุ่นกลิ่นและควันโชยฉุย ตะกร้าบรรจุสตรอว์เบอร์รีสดใหม่ใบเล็กวางคู่กับถ้วยครีมนมข้นหวาน ผ้าเช็ดปากสีขาวสะอ้าน ถูกบรรจงพับตั้งเป็นรูปหูกระต่าย
ทุกอย่างดูพร้อมพรั่งสมบูรณ์ สำหรับอเมริกันเบรกฟาสต์มื้อหรูของเจ้าของสวนส้มที่แผ่ไพศาลกว้างสุดลูกหูลูกตา
ใช่ .. มันสมบูรณ์แบบเฉกเช่นที่เคยเป็นมาทุกวันเมื่อก่อนหน้า แต่บัดนี้มันเพิ่มความสดใสระยิบระยับเข้ามา และชาลีตัดสินว่าเขาชอบใจกับความมีชีวิตชีวาที่เห็นอยู่ตรงนี้มากจริงๆ
อันที่จริงเขาเริ่มคุ้นชินกับความสมบูรณ์ สดใสนี้ได้สักห้าสัปดาห์กว่าแล้วนะ นับตั้งแต่เช้ารุ่งถัดมาที่เขาได้ไปรับตัวแม่สาวน้อยเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้ม เซ็กซี่ คลาสซี่ คาวาอี้ที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมา .. ผิวงาช้าง ดวงตากลมกว้าง สดใส ริมฝีปากเล็กบางแต่อวบอิ่มเต็มฉ่ำ ที่มัดผมยาวตรงทรงทวินเทล และดูเหมาะดีกับคำถามที่ว่า 'เด็กอะไรวะ! ใส่ผ้ากันเปื้อนสีชมพูแล้วดูนางฟ้า เซ็กซี่ อาวาอี้เดสซึได้ขนาดนี้?' คนนี้มาจากสนามบินในตัวเมืองเชียงใหม่โน่น
‘มื้อเช้าคือมื้อสำคัญ เพราะต้องเป็นมื้อที่ให้พลังงานเยอะๆ คุณปู่ออกไปทำงานหนักๆ ตากแดดอยู่กลางไร่ ชารอตต์ยังช่วยงานไม่ได้เต็มที่ มาอยู่บ้านนั่งตากแอร์เย็นๆ ทั้งวัน เรื่องดูแลบ้าน ทำอาหารให้คุณปู่ทานคนเดียวน่ะ มันง่ายจะตายไปค่ะ’ เธอเคยบอกเขาแบบนี้
และเพราะงี้ ตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาก็ดูเหมือนว่าอะไรๆ ในโลกของเขามันช่างจะดูสดใสซะหมดไปเลยน่ะสิ
"ส่าหวินโทรมาขออนุญาตตั้งแต่เช้ามืดแล้วน่ะค่ะ บอกว่าลูกชายป่วย มีไข้สูงๆ จะรีบพาไปโรง..เอ่อ เขาเรียกอะไร? .. อ่อ โรงพยาบาลน่ะค่ะ"
สาวน้อยสำเนียงญี่ปุ่น ที่พยายามหัดพูดไทยให้ชัด แต่ก็ยังคงไม่ถนัดเท่าไร แต่ก็พอสื่อสารกันได้ ทั้งๆ ที่ชาลีก็รู้คุ้นกับภาษาญี่ปุ่นดีนัก หากทว่าแม่สาวน้อยคนนี้ก็ตั้งมั่นเต็มที่ที่จะสื่อสารกับเขาผ่านภาษาไทย .. ภาษาที่มารดาผู้ล่วงลับไปนานแล้วของตนเคยใช้นั่นเองนั่นล่ะ
เธอถอดผ้ากันเปื้อนออกไปพาดเก้าอี้หลังเคาน์เตอร์ เผยให้เห็นเสื้อยืดสีชมพูตัวสั้น รัดติ้ว ที่บนหน้าอกสกรีนเป็นรูปกระต่ายน้อยเพลย์บอย ที่เขาก็ไม่ค่อยจะสนใจกับไอ้เจ้ากระต่ายผูกโบหูตั้งดำตัวนั้นเท่าไรนักหรอกในเวลานี้ เพราะมันมีอะไรที่ …. ช่างจะ ‘คัพจี’ … เฮ้ย! ไม่ใช่สิ …
แต่ตะกี้อยากจะพูดว่าอะไรหว่า? .. เอ้อๆ … ช่างแม่งมันเถอะ
ชาลีนึกเขิน เผลอข้ามขั้นตอนดื่มกาแฟเพื่อช่วยย่อยอาหาร เอื้อมคว้าถ้วยแก้วเล็กๆ ซดหมด จบ..ในอึกเดียว แก้อาการคอฝืดเพราะติดน้ำลายเหนียวๆ แต่สายตาเจ้ากรรมก็ด๊านนนน .. หลุบต่ำไปเจอง่ามสามเหลี่ยมอวบอูม ที่นูนเด้งกระทบตาเขาเข้ามาพอดิบพอดี แม้ว่าพื้นที่ตรงนั้นมันจะซ่อนอยู่ใต้กางเกงขาสั้นผ้ายืดสีขาว แต่มันก็ทั้งสั้น ทั้งรัด ทั้งรั้งร่างเธอไว้จนมันแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกันไปแล้วน่ะสินั่น
"อะแฮ่ม" รีบกระแอมค้นหาเสียงทุ้มๆ ดุๆ ของตนเองแก้เก้อ
อืมมม จำได้แล้ว .. วันนี้เป็นวันหยุด เขาเลยตั้งใจไว้ว่าจะพาเธอไปเที่ยวเสียหน่อย แต่พอมาเจอบรรยากาศแบบนี้ก็ชักอยากจะเปลี่ยนใจ
"ไม่กินมื้อเช้าหรือ?" ถามขึ้นมาอีก เพราะเห็นมือบางเรียวเล็กขาวนวลเอื้อมมาคว้าสตรอว์เบอร์รีสีสดฉ่ำ ที่เด็กสาวหยิบเอาไปทำท่าแตะริมฝีปากแล้วทำปากจู๋ ดูดจุ๊ฟๆ .. จะกัดก็ไม่กัด จะกินก็ไม่กินแล้วชาลียิ่งจะรู้สึกอึดอัด แข็งปั๋ง ขึ้นมาซะจะทันทีทันใด
โฮ้ยย… ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้วะ!!
"คุณปู่ชาลีเป็นอะไรไปคะ เก้าอี้นั่งไม่สบายหรอ?"
ตากว้างกลมโตแป๋วๆ มองมา
โธ่ .. ทำเอาเขานี้ยิ่งอยากจะบ้า คนหรือตุ๊กตากันแน่วะ?
ทำไมช่างน่า…….... เอ่อ..น่ารัก นัก!
และที่เขาแอบคิดในใจว่าวันนี้บรรยากาศดี ก็ไม่ใช่ว่ามันดีจากอากาศรอบๆ ตัวหรอก ทั้งๆ ที่วันนี้มันก็เป็นวันที่อากาศดีจริงๆ วันหนึ่งเลยนั่นแหละ แต่ที่ชาลีบอกว่าบรรยากาศมันช่างแสนดี .. ก็เพราะวันนี้มันเป็นอะไรที่แสนจะทางโล่ง โปร่งคนไปไหนกันหมดก็ไม่รู้
รู้แต่ว่า..เมื่อวาน แม่บ้านของเขามีคนส่งข่าวมาว่าญาติป่วยหนัก จึงมาขอลาเพื่อกลับไปดูแล และอาจถึงขั้นต้องรอดูใจญาติคนนั้นที่โรงพยาบาลต่างเมืองหนึ่งสัปดาห์ เขาเห็นใจ ยอมให้ลาได้เพราะสามารถเลือกคนงาน หรือสาวใช้ได้หลายคนที่จะมาดูแลบ้านได้ .. อีกอย่าง ตั้งแต่มีชารอตต์เข้ามาอยู่ด้วย เด็กสาวก็มาทำหน้าที่ดูแลบ้านเขาให้ดูดีขึ้น สะอาดเอี่ยมเรี่ยมเร้ มีระเบียบ มีชีวิตชีวาขึ้นมามากกว่าแต่เก่าแต่ก่อนอักโขเลย
เมื่อไม่มีทั้งแม่บ้าน และตอนนี้ยังมาว่างจากคนรับใช้ ที่บังเอิญกระไร ลูกชายวัยอ่อนดันมาป่วยอีก ซึ่งแน่นอน สามีของสวิน ที่เป็นกึ่งคนสวนกึ่งคนขับรถประจำตัวของเขาก็ต้องตามไปด้วยอยู่แล้ว จังหวะนี้จึงดูเหมือนว่าหนุ่มใหญ่เจ้าของไร่กับสาวน้อยลูกครึ่งคนสวยก็น่าจะได้อยู่คฤหาสน์กลางไร่ส้มนี้กันแค่ตามลำพัง
"วันนี้ปู่หยุด ตั้งใจว่าจะพาไปเที่ยว"
เฮ้อ .. เขาเองก็เป็นผู้ใหญ่ จะมาทำตัวเป็นสมภารผู้อดอยากปากแห้งจนไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดไม่ได้ อย่างไรซะ ชารอตต์ก็มีศักดิ์เป็นหลานสาว แม้จะนอกไส้ไกลพุงไปมากก็ตาม แต่เธอก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กในอุปการะของเขาอยู่ดีนั่นล่ะ
"ไม่ไป..ได้ไหมคะ? .. คือ..หนูเหมือนจะยังปรับร่างกายกับอากาศร้อนโหดร้ายที่นี่ไม่ได้น่ะค่ะ .. ยังรู้สึกเพลียๆ อยู่เลย"
เอียงคอทำตาแป๋วๆ อ้อนๆ ใส่มา..ก็ทำเอาชาลีถึงกับแทบละลายแทบจะลืมวิธีหายใจไปเชียวนั่น
"ขอโทษนะคะ" ครานี้ตีหน้าเศร้าใสๆ
"หืออออ ... ขอโทษอะไร?"
อ่อๆ .. พอคิดว่านี้เป็นมารยาทของทางโน้น ชาลีก็พยักหน้าให้ ..
นึกในใจ … โถ … ทูนหัวของปู่ ...
จะไหวไหมนี่กู? ... ปาดเหงื่ออีกครั้ง ..
ทำไมวันนี้เขาพลั้งพลาดบ่อยจัง(วะ)!
แต่ .. ดูๆ แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเด็กสาวคนนี้สักเท่าไร
บางครั้งดูเหมือนจะขี้อ้อน ขี้ยั่ว แต่บางทีแววตานี้ก็เหมือนๆ จะไร้เดียงสาซะจนเขาไม่กล้าผลีผลามใดๆ ..
เฮ้ย! ไม่ใช่ ...ไม่กล้าจะ…
เอิ่มม...ตะกี้จะพูดว่าอะไรวะ…
เออๆ ช่างมัน!!
"งั้นก็ได้ .. ตามใจ .. เดี๋ยวปู่จะไปตรวจงานเอกสารที่ห้องสมุด" ต้องตัดใจ .. รีบเอางานบังหน้าดีกว่า
ไม่งั้น..ประเดี๋ยวคงจะได้ยืนตบะแตกพรั่งพรู ขายขี้หน้าเด็กอยู่ตรงนี้แน่ๆ เลยกรู
เด็กอะไร..ยั่วใจเขาชะมัด! จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็สุดรู้ล่ะ แต่ว่าเขาก็ว่ามันไม่สมควร!
หากแต่ทว่า .. ตกบ่ายนั้น
ก๊อกๆ
"เข้ามา" เขาขานปากอนุญาตโดยยังไม่ยอมเงยหน้าจากกองเอกสารแต่กลิ่นน้ำหอมวิคตอเรียกลิ่นละมุนที่โชยมา ไม่ต้องเงยหน้าเจ้าของห้องก็รู้ว่าเป็นใคร
"งานคุณปู่เยอะจนล้นโต๊ะแบบนี้ตลอดเลยหรือคะ?"
ชารอตต์วางถ้วยกาแฟกับจานแซนด์วิชไส้ไข่กุ้งเลื่อนส่งให้
"สวินยังไม่กลับมาอีกหรือ?" เขาไพล่ถามอีกทาง
"ครู่นี้โทรมาแล้ว บอกว่าลูกเป็นไข้หวัดใหญ่ ขอไปนอนเฝ้า หนูก็อนุญาตเขาไปแล้วค่ะ"
"อืม …" เจ้าของห้องขมวดคิ้วคิดคำนวณว่า จะหาคนงานสาวในไร่คนไหนมาทำงานแทนสวินในระหว่างนี้ดีหว่า?
"เดี๋ยวเราคงต้องไปเยี่ยม และคงต้องเรียกให้รำเพยมาทำงานบ้านแทนสวินนะช่วงนี้"
"ค่ะ" เด็กสาวรับคำก่อนจะเดินออกประตูไป
พักใหญ่ๆ ชาลีก็เดินออกมาจากห้องทำงาน มองหาหลานนอกไส้แต่ไม่อยู่
เอ๋? หรือจะออกไปเดินเล่นในสวนหรือเปล่า? ... คิดในใจ
กำลังจะเดินผ่านไปยังสวนด้านหลังใกล้ครัวไทย .. จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงโพล้งเพล้งเหมือนข้าวของอะไรตกเกลื่อนกระจาย ตามด้วยเสียงหวานๆ ที่ร้องอุทาน
ว้ายๆ .. จากนั้นก็พ่นภาษาญี่ปุ่นระรัวเร็ว
"ร้อนๆ .. อะ! .. แง...ร้อนๆ"
แล้วภาพตอนที่เขาโผล่หน้าเข้าไปมองก็เห็นร่างเล็กขาวกำลังกระโดดหย่งๆ ย่ำเท้าอยู่กับที่ ที่ก้นกระทะมีซากปลานอนตายตัวดำควันคลุ้ง ตะลงตะหลิวกระเด็นเป็นพร็อพประดับฉากอยู่ข้างเท้า มือขาวเรียวเล็กๆ ทั้งสองก็แข่งปัดๆ ตบๆ อยู่ตรงสองเต้ากลม จนมันเด้งดึ๋งดั๋งๆ อยู่ไปมา เจ้าของร่างคร้ามคมไม่ลืมที่จะรีบเอื้อมมือไปปิดเตา ส่วนปากก็ร้องถามอย่างร้อนใจ …
ทูนหัวของปู่ .. เป็นอะไรหรือเปล่า? … (อ๊ะ! ไม่ใช่!!)
"ชารอตต์เป็นอะไร ... เฮ้ย! น้ำมันลวกหรือ ไหน! ขอปู่ดูซิ!!"
เธอคงจะเตรียมทำอาหารให้เขา เด็กสาวทำอาหารญี่ปุ่นกับเมนูฝรั่งได้เก่งและเลิศหรูมาก แต่ดูเหมือนเธอจะไม่คล่องกับเมนูอาหารไทยเท่าไรนัก ผลมันจึงได้ออกมาเป็นแบบนี้
บทที่ 2 : ยิ้มเจ้าชู้
"จะทอดปลาค่ะ ได้ยินว่าคุณปู่ชอบกินปลาเก๋าทอดกรอบๆ สามรส หนูจะลองหัดทำ แต่ไม่คุ้นกับเตาแบบนี้ ไฟมันแรง ไอมันร้อนมือ เผลอโยนปลาลงไป น้ำมันมันก็กระเด็น ร้อนๆ เนี่ย! .. คุณปู่ดูซิ มันจะพองจนน่าเกลียดไหม?"
นั่นไง .. เขาเดาไว้ไม่ผิด
แต่!! .. เฮ้ยยยยยย!
จู่ๆ แม่สาวน้อยก็เลิกเสื้อยืดตัวรัดติ้วง้างขึ้นแทบจะถอดพ้นหัวเฉยเลย ชาลีถึงกับงงจนตาจะเหลือก ตกใจในความขาว อวบอัดเกินพลังโอโม่พลัช แล้วก็ความดึ๋งดั๋งจากสองเต้าคัพจีที่พอมันหลุดเป็นอิสระจากเสื้อยืดตัวรัดติ้ว
แน่นอน ก็ไอ้ที่ทำเขาอึดอัดๆ นั่งไม่ติดมาตั้งแต่เช้า นั่นก็เพราะเขารู้ชัดไงว่าแม่สาวน้อยเธอไม่ได้ใส่บราเซียไว้ข้างใต้เสื้อยืดตัวนอกนั่นแหละ! และเพราะการแต่งตัวแบบนี้ชารอตต์ได้สิทธิ์แค่แต่งอยู่แต่ในบ้าน ขืนแต่งออกนอกบ้าน ชาลีเคยสาบานว่าจะตีก้นขาวอวบๆ ของเธอให้แดงแน่!
"ฮือๆ ..ร้อนๆ ..ร้อนอะ..คุณปู่ดูสิ ดูให้หน่อย แผลอยู่ตรงไหน"
"เอ้อ…คือ เดี๋ยวนะ"
พอเจอนมขนาดคัพจีจะๆ ตากันแบบนี้ ก็เล่นเอาคุณปู่ชาลีถึงกับงุนงันโดนมนต์ ‘นะจงงง’ ไปได้เช่นกันนะ เฮ้ย!
จริงๆ เขาเองก็นักเลงนักรักถนัดเรื่องสงครามบนเตียง จึงจะมีเรื่องกับสาวๆ ของเขาอย่างมากหน้าโชกโชนมาตลอดทั้งชีวิตนั่นแหละ แต่กับแม่สาวตัวเล็ก ตาแป๋ว หน้าตาสวยงามราวตุ๊กตาบาร์บี้แบบนี้เขาเองไม่เคยมีในสต๊อกน่ะสิ เพราะรสนิยมเขาต้องเป็นสาวสวยเซ็กซี่ หุ่นดี ดีกรีค่อนไปทางยุโรป .. สวยๆ ขาวๆ เอ๊าะๆ แบบเด็กญี่ปุ่นเขาเคยมีที่ไหนเล่า .. แต่คนเป็นปู่ตั้งแต่ยังหนุ่มก็รู้ดีนะว่าเด็กสาวในอุปถัมภ์ของเขาคนนี้เธอนั้นมีงานอดิเรกอะไรเช่นกัน
ครั้งแรกที่ฮานะแจ้งข่าวมาว่า ชารอตต์จะไปถ่ายแบบให้กับเพื่อนสาวรุ่นพี่ในชมรมถ่ายภาพ หนุ่มใหญ่ก็คิดว่าตามประสาเด็กสาวที่ชอบถ่ายรูปกันเล่นๆ แค่ส่งงานเก็บคะแนนกันธรรมดาทั่วไป ก็เลยไม่ได้สนใจ ทำงานของเขาต่อไป แต่ที่ไหนได้! สองปีต่อมา รู้ตัวอีกที ชารอตต์ก็โด่งดังอยู่ในวงการ 'กราเวียร์' กลายเป็นนางแบบชุดชั้นใน ชุดว่ายน้ำตัวท็อปไปแล้ว แล้วพอรู้เช่นนั้นเขาก็เลยมีคำสั่งห้ามไม่ให้เธอไปทำ แต่พี่ฮานะก็รับรองยืนยันว่าชารอตต์รับปากแล้วว่าจะไม่ทำตัวเหลวไหล ใจแตก เสียเด็ก เสียการเรียน จากนั้นเขาก็พิจารณาละเอียดว่าฮานะนั้นมาจากตระกูลเก่าแก่
ที่แน่ๆ นางคงไม่ยอมปล่อยหลานสาวคนเดียวให้ไปเสียคนและไปทำตนเสื่อมเสียเกียรติที่ไหนใดๆ ได้แน่ๆ
หากขนาดภรรยารุ่นพี่ที่สาบสูญไปของเขาตัดสินใจยอมเช่นนั้น ชาลีจึงจำต้องปล่อยเรื่องนี้ไปตามใจเด็กสาวในอุปการะอีกครั้ง
สี่ปีผ่านมา ฮานะก็บอกเขาว่าชารอตต์เบื่อหน่ายชีวิตหน้ากล้องแล้ว จึงอยากจะหนีลูกตื๊อจากเหล่าเอเจนต์ซี่ของบริษัทต่างๆ และจะขอหลบมาอยู่เมืองไทย และอยากจะขอมาช่วยงานตอบแทนบุญคุณเขาด้วย ทั้งที่คนเป็นปู่ตั้งแต่ยังหนุ่มเองก็ยืนยันไปแล้วว่าไม่ต้องมาตอบแทนอะไร ที่ผ่านมานั้นเขาช่วยเพราะความเต็มใจและจริงใจจริงๆ แต่ฮานะก็ว่าชารอตต์อยากมา ยืนยันหัวชนฝาว่าจะมาช่วยงานคุณปู่ และนางเองก็เต็มใจเพราะลึกๆ แล้วก็อยากให้ชารอตต์ออกห่างจากวงการนางแบบนั้นตั้งนานแล้ว ขืนอยู่ที่โน่น เดี๋ยวคงไม่พ้นโดนหว่านล้อมให้กลับเข้าวงการ
ชาลีเลยตกลง โดยที่เขาเองก็ไม่ได้คาดคิดสักนิดนี่สิว่า .. การรับเด็กสาวมาร่วมชายคา..มันจะน่า …. เฮ้อ!!
ก็ตอนไปรอรับเธอที่สนามบิน ชาลีก็ยังยืนคิดแค่ว่า ไอ้ที่เห็นในอินเทอร์เน็ตเป็นสาวน้อยหน้าใสกิ๊ก ดวงตาแป๋วแหวว ผิวใสขาวผ่อง หน้าอกอวบใหญ่ แขนขาเรียวยาวนั่นมันเป็นเพราะมุมกล้องร่วมกับการเสริมแต่งภาพแบบมืออาชีพ
ที่ไหนได้ นี่มัน ‘เทพธิดาในฝัน’ ของเหล่าบรรดาหนุ่มพันธุ์หื่นชัดๆ
โอย..อย่าว่าแต่หนุ่มๆ แถวนั้นเลยที่จ้องมากันตาเป็นมัน .. สาวๆ หลายคนแถวนั้นเขาก็ยังเห็นพวกเธอเหล่านั้นแอบลอบชำเลืองมองมาอย่างอิจฉา .. ตาค้างจนจะสลบกันไปหลายราย
ชาลียืนยันได้ตอนที่เธอก้าวเข้ามา ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ทันทีว่าเขาเป็นใคร เด็กสาวพนมมือไหว้เขาผู้ที่ยังยืนตื่นตะลึงกับนางฟ้าตัวน้อย ที่ก้มกายทักทายเขาได้อย่างอ่อนช้อย งดงาม ท่ามกลางทุกคนในที่นั้น ทั้งหญิง ทั้งชายก็เอาแต่จ้องเหลียวมองดูเธอกับเขาอยู่เป็นจุดๆ เดียว
จากนั้นเธอก็ทำสิ่งที่เขาไปคาดคิดสุดๆ อีกคราก็คือแม่สาวน้อยคนสวยเกาะแขนเขาแล้วเหนี่ยวกาย เขย่งตัวสุดปลายเท้ามาจุ๊ฟแก้มจนชิดริมฝีปากหยักหนาของเขา ที่เผลอเผยอปาก เพราะความงง ตกใจ ในแบบที่เธอ ‘ตั้งใจ’ หรือไม่ .. เขาเองก็สุดจะรู้ใจเด็กสาวคนนี้จริงๆ
โอ๊ย .. แต่ที่รู้ๆ คือ .. เขานี่ยังคงจดจำรสชาติจากริมฝีปากนุ่มๆ สดฉ่ำนั้นได้ชัดเจนเลยนี่สิ
เพราะเช่นนี้ล่ะ คนที่ผ่านสมรภูมิรบแต่แถบฝั่งยุโรปเพรียวๆ แบบเขาก็เลยดูจะเงอะงะ รับมือกับฝั่งสาวน้อยโมเอะไม่ถูกทีเดียวเชียว!
"มันแดงไหม มันพองไหม .. โอ๊ยขี้เหร่แน่ .. คุณปู่จ๋า ดูให้หน่อยสิ มันจะเป็นแผลเป็นหรือเปล่า"
ไม่พูดเปล่าด้วย ดึงมือหนาหนักของเขาให้ไปลูบคลำสำรวจผิวสวยๆ ของเธอไปด้วยเฉยเลย ..
โธ่… ทูนหัวของปู่ … ชาลีครางในใจ
"อย่าแตะตรงนั้นค่ะ อ๊ะ! มันแสบๆ ..ฮือๆ"
คนห่วงความสวยเท่าชีวิตแทบสะอื้น .. ชาลีถึงกับสะดุ้งวาบ เพราะเผลอเอื้อมไปแตะตรงรอยแดงเธอเข้าพอดี …
"ไปทายาห้องปู่..ไป ที่ห้องมีตลับยาเก็บไว้นั่น"
คนเป็นปู่ตั้งแต่ยังหนุ่มไล่ ทำเสียงจิจ๊ะ ก่อนลดเสื้อเธอลงให้มันปกปิดผิวผ่องนั่นซะ ชารอตต์ถึงกับใจหายวาบ เผลอทำปากยื่น ครานี้ชาลีเองก็คงจะฝืนความรู้สึกตัวเองไว้ไม่ไหว ก่อนจะลากข้อมือเด็กสาวขึ้นชั้นบนตรงเข้าไปในห้องน้ำซะเอง
"ไหน! มารีบล้างคราบน้ำมันออกก่อนสิเดี๋ยวติดเชื้อ .. ไหน..แผลตรงไหน"
"ฮืออๆๆ .. ตรงนี้ค่ะ ตรงนี้..." ชาลีมองสองมือขาวๆ ที่เลื่อนผ่าน ลูบไล้ไล่จากเนินเต้าหน้าอกตรงฐานบน ลากผ่านปลายถัน เลื่อนมาประคองเต้าใต้ฐานล่าง ครานี้สิ เสื้อตัวจิ๋วผ้ายืดมันจึงยิ่งตึง และแล้วแม่สาวน้อยก็แอ่นหน้าอก ชูปลายยอดแหลมๆ มาให้ผู้ชายหล่อล่ำดู
ที่ตรงนั้นมันทั้งแข็งทั้งตึง ชูชันไปหมด .. ก็ไม่รู้นะว่าเพราะอะไร เจ้าช่อปทุมอวบอูมที่พุ่งตุงดันผ่านเนื้อผ้าทะลุมิติออกมาจนเห็นชัดเจน แต่ชาลีก็ราวกับตกลงไปในห้วงภวังค์ ยังจะคงก้มหน้ายื่นไปดูใกล้ๆ จนชารอตต์รู้สึกถึงลมหายใจแรงร้อนของเขาที่มันเป่าไล้ตรงทรวงอกตนได้ชัดถนัดถนี่ .. แต่คำวินิจฉัยของเขานี่สิ มันดันยิ่งทำเอาสาวน้อยผวาใหญ่
"อื้ม .. แล้วอย่างนี้มันจะเป็นรอยไหมล่ะนี่"
"คุณปู่อย่าเอาแต่ดูเฉยๆ สิคะ! .. รีบๆ ทำอะไรเข้าซี~"
โห้ย .. อย่าเร่งสิ! เดี๋ยวปู่หัวใจวายตาย
เพราะความหมายของเด็กสาวมันช่างกำกวม .. แล้วไอ้คนชอบตีความสัปดนมันก็หน้าตาเหมือนเขานี่
คนร่างสูงที่ตอนนี้ลดตัวลงนั่ง ทิ้งน้ำหนักไว้ที่ปลายหัวเข่า พูดด้วยน้ำเสียงพร่าแทบจะปิดไม่มิด
"ชารอตต์รีบเอาน้ำเย็นลูบมันหน่อยนะ จะได้ไม่พอง แล้วเดี๋ยวปู่จะไปเอายามาทาให้"
"อื้อ .. คุณปู่คะ..ดูที..ดูให้ที"
เขาจะลุกหลบออกไป แต่คนตัวเล็กยังฉุดข้อมือไว้เลิกเสื้อยืดขึ้นอย่างตั้งใจอีกครั้ง พอชายเสื้อหลุดพ้นภูเขา ยอดอกสองเต้าของเธอมันก็ดีดตัวผึง! เด้งดึ๋งออกมาอวดสายตาชาลีที่ตอนนี้แทบจะอยู่ระดับเดียวกับมันอีกครั้งทันที
ปรอยตามองสาวน้อยที่กำลังก้มตัวลงเปิดก๊อกแล้วก็เอาน้ำลูบๆ ไปทั่วเต้าเนื้อเนินนม ซึ่งตรงที่เหนือปลายถันสีชมพูสดนั่นมาหน่อยจะมีรอยแดงๆ ..โดยที่ไม่มีวันรู้ความจริงในใจของสาวน้อยเจ้าเล่ห์คนนี้สักนิดเลยว่า ..
ใครว่าจะทอดปลา? ..
เธอตั้งใจจะ ‘ทอดสะพาน’ ต่างหากละ!
แต่ .. แหม..น้ำมันร้อนๆ นี่โดนเข้าเต็มๆ จริงๆ นะ ..
ไม่ได้แกล้ง .. ถึงแม้ว่าจริงๆ จะแสร้งสร้างสถานการณ์นี้ขึ้นมาเองก็เถอะน่า
ชาลีคงจะลืมไปว่า เธอน่ะ จะต้องถูกฮานะฝึกฝนเรื่องการบ้านการเรือนมาอย่างหนักหนาสาหัสแค่ไหน ก็เพราะผู้เป็นย่านั้นขึ้นชื่อว่าเป็นหญิงสาวที่มาจากตระกูลเก่า ฝั่งขุนนางเก่าเจ้าระเบียบและเคร่งครัด และส่วนเรื่องอาหารไทยชารอตต์เองก็ต้องรู้ไว้จนเก่งพอตัวที่เดียวเชียว
แม่นางมารน้อยจอมยั่ว เปิดก๊อกน้ำจากเคาน์เตอร์หินอ่อนของเขาวักน้ำลูบเน้นๆ ไปตรงรอยแผลแดงๆ
"ซี้ดดดด..ดด...ด...อู๋วววววว...วว์"
ก็มันแสบมากๆ เลยเชียวละ
เธอเองยังแอบนึกกลัวเหมือนกันนะว่าอกสวยๆ ของตนจะเป็นรอยแผลเป็นเข้าให้ตามประสาผู้หญิงรักสวยรักงาม แต่ถ้าเพื่อยั่วตบะของผู้ชายวัยที่ไม่น่าจะถึงขั้นปู่แก่หงอมคนนี้ กราเวียร์ตัวท็อปอย่างเธอก็จำต้องของัดมารยาหญิงทั้งหมดที่มี เพื่อมาใช้งานนี้ทุกตำราแน่ล่ะค่ะ
หน็อยแน่! แค่เธอมาอยู่ด้วยไม่ถึงห้าสัปดาห์กว่าๆ คุณปู่ชาลีที่รักก็คว้าผู้หญิงมาขยี้ปาดหน้าเธอไปได้จะสิบรายแล้วนะ!!
ฮึดสู้ ลอบสูดลมหายใจเรียกความกล้า ยืดตัวขึ้นตรง หันกลับมา โชว์เนินนมเปล่าเปลือยให้ผู้ชายหล่อล่ำที่เธอเรียกว่าปู่ให้ดูอีกทีเต็มๆ ตา จนผู้เป็นปู่อุปถัมภ์ก็ถึงกับอึ้งนิ่งเงียบซ้ำไปอีกสิ เพราะกำลังตกตะลึงจึงปล่อยให้สายตาซุกซนของคนเป็นหลานนอกไส้ ที่แม้จะหวงตัวนักหนากับคนอื่น แต่ความทะลึ่ง ทะเล้น น่ารัก ก๋ากั่นของเธอมันก็มีมากล้นพอตัวเช่นกันเมื่อมาอยู่ต่อหน้าคุณปู่ชาลีในตอนนี้
เหลือบตาลงไปมองตรงเป้ากางเกงขายาว ที่เขาใส่อยู่บ้านแบบสบายๆ ที่ชาลียังไม่ได้เปลี่ยนเพื่อจะเตรียมตัวออกไปข้างนอก อย่างที่นัดแนะกันว่าจะไปเยี่ยมเด็กที่โรงพยาบาล บัดนี้เห็นชัดเลยล่ะว่าเนื้อผ้ามันชักเริ่มถูกดันตุงๆ
บทที่ 3 : แต่ผิดที่ครั้งนี้
สาวเจ้าเล่ห์จอมซนแอบอมยิ้มในใจก่อนพูดต่อด้วยเสียงใส อ้อนๆ
"คุณปู่ดูสิคะ..เนี่ย..เป็นรอยแดงเลย..ทำไงดี"
ชารอตต์บอกชาลี สองมือก็ยังจับเลิกชายเสื้อยืดขึ้นมาจนสุดที่คอ
งานนี้สองเต้ากลมที่เรียกว่านมชารอตต์จะเด่นขนาดไหน .. ไปนึกภาพต่อกันเอาเอง
"อะ..เออ..ทายาสักหน่อยก็หาย เดี๋ยวปู่จะไปหยิบมาให้"
หนุ่มใหญ่วัยห้าสิบพอดีๆ ที่ตอนนี้เริ่มกลับมาตั้งสติได้อีกที ลุกขึ้นหันขวับเดินออกไปทันที และตอนเขากลับเข้ามาอีกครั้งแม่สาวน้อยชารอตต์ก็ยังไม่ยอมเอาเสื้อลง เห็นเช่นนี้ แทนที่จะโดนดุ แต่กลับปรากฏรอยยิ้มเจ้าชู้ติดแต้มอยู่ที่มุมปากเขานิดๆ แถมที่ความเป็นชายก็เริ่มดันกางเกงขายาวเนื้อเบาของเขาอยู่ จนเจ้าของมันปวดร้าวตุบๆ
ชารอตต์ยิ้มตอบเขาจนดวงตาเป็นประกายวิ้งๆ เอียงคอทำที่เซ็กซี่ ยั่วยวน ..อย่างน่า…..... เอ่อ ..น่ารัก..
ชาลียื่นตลับยาเป็นครีมเนื้อสีขาวเป็นมุกวาวส่งให้ และในขณะนี้ที่ทั้งผู้ชายหล่อล่ำสูงวัยกับสาวน้อยวัยใสต่างก็มองตากันและกัน .. ในแบบไม่มีใครยอมหลบให้ใครก่อนเชียวละ
"ช่วยทาให้หน่อยสิคะ..ไม่กล้าแตะเลยค่ะ มันเอ่อออ … เจ็บๆ" เธอที่ยังจ้องตาเขา ยิ้มหวาน
"ได้ .. มา ขยับมาใกล้ปู่"
สาวน้อยเดินแทรกเข่าเขาเข้าไปยืน ในขณะที่ชาลีถอยไปนั่งเก้าอี้ ยิ้มเจ้าชู้ๆ ตอบมาก่อนจะค่อยๆ เปิดตลับยาป้ายนิ้วยื่นมาถูวนๆ ที่รอยแดงเหนือปลายถันที่ตั้งชี้ชูชัน ล่อตา
"อู๋วว์!! มันเย็นๆ น่ะค่ะ"
"ยาจีน ใช้ทาแผลน้ำร้อนลวก แผลพุพอง ปู่ตากแดดกลางไร่ บางทีก็เผลอเพลินทำงานตากแดดนานไปหน่อย ได้แผลพองมาประจำ ก็เลยต้องมีติดห้องไว้"
"คุณปู่ชาลีนี่เท่จัง" ชารอตต์เอ่ยชมจริงๆ จากใจ
ระดับเขาไม่ต้องไปลุยงานเองก็ได้ แค่ชี้นิ้วสั่งการ มีคนงานตั้งหลายร้อยหลายพันชีวิตในไร่นี้ แต่ปู่ชาลียังขับจี๊ปยุโรปคู่ใจลุยไปตรวจงานด้วยตนเองประจำทุกวัน
และที่ผ่านมา เธอก็เคยออกไปดูเขาทำงานกลางไร่ เดินไปเดินมา ตรวจตราเอกสารในออฟฟิศติดแอร์ ด้วยรูปร่างสมาร์ท สูงสง่า คล่องแคล่ว แข็งแรงสมบูรณ์ในแบบที่หนุ่มหุ่นขี้ก้างรุ่นๆ เธอยังอายตายสลบไปเลยหลายคน
"อูววว์….."
มีฉาก Hot very very Hot ตรงนี้จึงขอ CUT ค่ะ
บทที่ 4 : เด็กดื้อ !
และก่อนที่อะไรๆ มันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ … เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของเขาก็ดัง
เรียกสติคุณปู่อุปถัมภ์ของสาวน้อยคนนี้ได้ชะงักนักเชียว!!
ชารอตต์เริ่มหน้ามุ๋ย คิดใจในต่อไปได้ทันทีว่าวันนี้วันหยุด คงต้องเป็นแม่สาวใครใดคนหนึ่งของเขาโทรมาหาแน่ๆ
ชาลีเดินเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์ที่ริมระเบียง แต่ใบหน้าของเขามองตรงมาที่สาวน้อยที่ตอนนี้ดึงเสื้อยืดตัวจิ๋วลงมาปิดหน้าท้องแบนราบเรียบลงเรียบร้อย ด้วยปากยื่นๆ จนผู้ชายหล่อล่ำแอบขำจนตาพราว
เอาแล้วไง.. ดูเหมือนเขาคงจะต้องรับมือกับสาวน้อยขี้หึงเข้าให้แล้วละมัง?
แต่สักพัก พอคุยโทรศัพท์เสร็จเขาก็พยักหน้า
"ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดซะชารอตต์ .. จำไม่ได้หรือว่าเย็นนี้เราต้องไปเยี่ยมลูกชายสวินที่โรงพยาบาล"
น้ำเสียงชาลีตอนนี้ มันกลับกลายมามีแววห่างเหินเย็นชา ไม่เหลือเค้าผู้ชายร้อนแรง หื่นกระหายคนเมื่อครู่นี้ไว้สักนิดเลยนี่สิ
ชารอตต์พยักหน้าให้เขาอย่างว่าง่าย แต่ยังไม่ทิ้งร่องรอยความละอายกับเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เกิดร่วมกันกับเขา ผสมกับความแง่งอนไปกับโทรศัพท์ที่รู้ชัดว่าเป็นของผู้หญิงในสต๊อกของคุณปู่ หล่อ ล่ำ งามสง่า ผู้อุปถัมภ์ของเธอคนนี้แน่
และมันคือความผิดเธอคนเดียวหรอกหรือ ที่บังเอิญวันนี้เธอดันยั่วตบะของเขาให้แตกสลายกระเจิดกระเจิงได้น่ะ!!
"มื้อค่ำเราจะไปกินกันข้างนอก" เขาบอกสั้นๆ ว่าเธอไม่จำเป็นต้องลงมือทำอาหาร
"ค่ะ" ไม่ยอมมองตา ชาลีชักเริ่มขมวดคิ้ว
เขาไม่ชอบเลยจริงๆ ผู้หญิงขี้หึงเนี่ย .. พับผ่า!!
แต่หากพอค่ำนั้น หลังจากไปเยี่ยมลูกชายบริวารคนงานในไร่เสร็จเขาก็พาเธอไปดินเนอร์ที่โรงแรมสุดหรู และที่นี่ ส่วนใหญ่ก็มีผู้ชายหลายคนคล้ายจะจำได้ว่าสาวน้อยคนนี้เป็นใคร .. จริงๆ สามสัปดาห์ที่ผ่านมาคนเป็นปู่ตั้งแต่ยังหนุ่มก็เคยพาเธอออกงาน พาไปเที่ยว พาไปกินข้าวข้างนอกอยู่บ่อยครั้งนะ ก็มักมีสายตาแบบนี้แหละที่มองเธอมาเป็นมันวะวับ แต่เขากลับไม่เคยสนใจ ยกเว้นจะแอบภูมิใจล้มอยู่ซะด้วยซ้ำที่เขาได้ควงสาวน้อยแห่งวงการ ขวัญใจหนุ่มๆ ทั้งเมืองนอกเมืองในคนนี้มาควงไปไหนมาไหนได้ทุกเวลา.. แม้ว่าเธอและเขาจะอยู่ในฐานะเด็กในอุปการะกับผู้อุปถัมภ์ก็เถอะ แต่คนนอกก็ไม่มีใครรู้ใช่ไหมล่ะ และอันที่จริง สาวๆ ส่วนใหญ่ที่มหาเศรษฐีหนุ่มเจ้าของไร่ควงมาก็มีดีกรีจัดเป็นดารา นางแบบชั้นแนวหน้าแทบทุกคนล่ะน่า .. ในที่นี้ ชารอตต์เองก็วางตัวเก่ง ไม่ล่อกแล่กหวั่นไหวใดๆ .. ชายหนุ่มเองก็ตีหน้านิ่งๆ เฉยๆ ได้
แต่ผิดที่ครั้งนี้ .. ทำไมเขาจึงหงุดหงิดกับสายตาผู้ชายคนอื่นที่มองแม่สาวน้อยของเขาแล้วทำตาวิบวับนั่นด้วยวะ!
สุดท้าย ทนหงุดหงิดไม่ไหวเขาก็รีบกินๆ จนเด็กสาวถึงกับเอียงคอมอง
ความจริงชารอตต์ของเขาน่ารักมาก จะทำอะไร จะไปทางไหน ดูคล้ายเธอจะสังเกตสีหน้าเขาตลอด แม้ขณะที่เขารู้ว่าเธอกำลังงอนๆ เขาอยู่ในตอนนี้ก็เถอะ
"อาหารมื้อนี้ไม่อร่อยหรือไงคะ .. ทำไมวันนี้คุณปู่อิ่มไว้ไว"
เธอถามเพราะเห็นเขารวบช้อน หยิบผ้าแตะปากแล้วจิบไวน์ล้างคอหมดแก้ว ส่งสัญญาณว่าอิ่มแล้ว ทั้งที่อาหารยังเต็มจาน อาการแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลย และปกติคุณปู่ผู้ใจดีก็เคยไม่กดดันเธอแบบนี้นะ
"แล้วชารอตต์ละอิ่มหรือยัง?"
เขาเสียงแข็ง ยิ่งหงุดหงิดหนักไปใหญ่เมื่อปลายหางตาเห็นเงาไอ้ตี๋หน้าขาวคนหนึ่งเอาแต่จ้องเอาๆ มาทางโต๊ะเขา
"ฮึ! … ยังค่ะ" สั่นศีรษะดิกๆ ทำหน้าทำตาไร้เดียงสา ก้มหน้าหั่นสเต๊กเนื้อย่างเตาถ่านชิ้นหนาฉ่ำจิ้มเข้าปาก
คนหน้าคมเริ่มบึ้ง เมื่ออดไม่ได้ ชาลีก็เลยต้องหันไปจ้องมองกลับไปโต๊ะข้างๆ นั้นบ้าง .. ตรงๆ
แหมะ ขนาดไอ้หมอนั่นมันมากับเมียกับลูกมันนะ ยังจะกล้าปรายตาแลผู้หญิงของ ..เอ่ออออ.. ผู้หญิงคนอื่นอีกหรอวะ ฮืมมมม!
ไอ้ตี๋..ที่มัวแต่มองความโอโม่ นมโต๊โตของชารอตต์เพลินพอสบตาดุๆ ของผู้คุมหน้าเข้มคมเข้าให้ก็รีบหลบตา
จัดการส่งสายตากำราบโต๊ะใกล้ๆ ได้ ชาลีก็ไม่วายส่งสัญญาณตาขวางๆ ส่งไปยังโต๊ะถัดไปที่พอจ๊ะเอ๋เขาเข้าก็หลบตาวูบไปทันทีเช่นเดียวกันกับโต๊ะแรกๆ
จากนั้นก็หันไปโต๊ะสาม .. โต๊ะสี่ … ก็พอดี
"นานิ? คุณปู่หันดูอะไรคะ น่ะ..คอจะหักแล้วน่ะค่ะ"
เจ้าของร่างอวบขาวผ่องที่ยังนั่งหั่นเนื้อฉ่ำหนาอยู่ตรงข้าม ทำอาการเอียงคอมองมาตาแป๋วๆ อีกครา
"รีบๆ กิน รีบๆ อิ่มได้แล้วน่า" คนเป็นปู่ตั้งแต่ยังหนุ่มหุ่นล่ำบึกขมวดคิ้ว
"เอ๊า!!"
แทนที่จะกลัว ชารอตต์แกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ ก้มหน้าหั่นอาหารกินเฉย
และใต้ใบหน้าก้มต่ำงับอาหาร สาวน้อยเจ้าเล่ห์ก็แอบๆ อมยิ้มอยู่ละ
หึ! สม .. รู้จักหึงใครก็เป็นด้วยหรอ
"คุณปู่จะไปธุระ มีนัดกับสาวไหนไว้ก็ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูจะให้ลีมูซีนของโรงแรมไปส่งให้ก็ได้"
เธอกับเขามาดินเนอร์ที่นี่บ่อย สาวน้อยก็เลยคุ้นเคยกับโรงแรมหรูหราแห่งนี้ดี
"รีบกิน"
"คุณปู่มีธุระ จะย้อนไปย้อนมาทำไมล่ะ"
ประชดไม่ลดละ แถมเงยหน้ามาตาวาวๆ เหมือนจะมีประกายน้ำตา
"ใครว่าปู่มีธุระ"
"ก็เมื่อเย็นมีสาวโทรมานิ" คำลงท้ายว่า ‘นิ’ มีแววแง่งอนชัดเจนขึ้น
"สู่รู้" เสียงเข้มๆ ดุมาอีก
"อ่อ"
พูดแค่คำเดียวแล้วก้มหน้าละเลียดอาหารของตนต่อ แถมแกล้งปรายตาไปมองโต๊ะข้างๆ ที่มีหนุ่มหน้าหล่อคมเข้มกำลังมองเธอมาอยู่พอดี แถมมาคนเดียวด้วย
คราวนี้เลยที่ชาลีลุกพรวดพราด ฉวยคว้าข้อมือหลานสาว กระชากซะแขนเธอแทบจะหลุด แย่งช้อนไปวาง พยักหน้าเรียกกัปตันดูแลห้องอาหาร ที่รีบปรี่เข้ามาทันทีด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก ตกใจ
หนุ่มเจ้าของไร่ยื่นบัตรเครดิตสีดำตัดกับตราประดับและตัวอักษรสีเงินวับด้วยใบหน้าดุ หงุดหงิดให้ ก็สายตานี้ขนาดระดับกัปตันร่างใหญ่ยังกลัว เขาไม่เคยเห็นพ่อเลี้ยงชาลีมีผู้สุขุมใจดีจะมีท่าทีดุดันจนหน้ามหาโหดขนาดนี้มาก่อน
"เอ๊า!"
และชารอตต์ก็ร้องได้แค่นั้นละก่อนถูกผู้ปกครองลากหลุนๆ พรวดๆ ออกไปเลยเมื่อบัตรถูกยื่นคืนมาให้เขาแล้ว
。。。。。。。。。。。。。
มันค่อนข้างจะบ่ายจัดแล้วในตอนที่ชารอตต์ไขห้องของชาลีเข้ามา เธอตั้งใจว่าทำความสะอาดห้องให้เขาด้วยตนเอง โดยไม่ทันสังเกตเห็นว่าเจ้าของบ้านใหญ่วันนี้เลิกงานไวและกลับมาบ้านนานแล้ว เพราะเปิดประตูเข้าไปไม่เห็นเงาของใคร เธอก็เลยคิดว่าเขาน่าจะยังไม่กลับ เพราะปกติคุณปู่ผู้ขยันบางวันก็เลิกงานค่ำ บางวันก็ดึกนิดๆ เพราะแวะเข้าไปเยี่ยมอีหนูคู่ขาในเมืองบ้างเป็นบางครั้ง
แต่พอกำลังจะก้มหน้าเก็บกวาดห้อง หูก็พลันได้ยินเสียงคนครางแว่วๆ มาจากในห้องน้ำ ซึ่งเธอจำได้ในทันทีเละแหละว่านั่นคือเสียงใคร
แต่ก็สงสัยสิล่ะ เพราะพอตะแคงหูฟัง อ้าว! เสียงมันดังมาจากในห้องน้ำ
แต่ … นานิ่! … เสียงคุณปู่ครางนิ ใช่ไหม?
ลื่นหกล้มหัวโขลกอะไรจนลุกไม่ไหวหรือเปล่าอะ!
หันขวับ .. ฟังอีกทีไม่น่าจะใช่เสียงคนบาดเจ็บ เลยชะงักเท้าไว้ แต่ยังไม่วายเลิกสงสัย
เอ๋? .. หรือ..คุณปู่แอบทำอะไรลับๆ อยู่หรือเปล่าหว่า?!
อารามตกใจ ห่วงใยแต่ดันฉุกคิดอะไรได้นิดๆ แกมสงสัยไม่น้อย ..
จากการก้าวรีบๆ ยาวๆ จึงผ่อนเท้าเปลี่ยนมาเป็นย่องเบาๆ เข้าไปใกล้ ตัดสินใจมองหาช่องทางที่จะพอส่องเข้าไปดูลาดเลาก่อนดีกว่า
แต่เสียงแผ่วๆ สุ้มเสียงแปลกๆ แบบนี้ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า
สงสัยจะได้เห็นของจริงแน่แล้วละมังวา .. วันนี้ …
แต่แอบดูเขางี้จะดีหรือ! มันจะไม่ทะลึ่งเกินไปหรอ ..
แต่...ไม่มั้ง? … แหม..ก็ทีวันก่อนเขายังเคยเห็นของเธอได้เลย แต่เธอนี่สิยังไม่เคยเห็นของเขาเลย … คุณปู่จะมาเอาเปรียบกันแบบนี้มันจะถูกหรอ!!
ทะเลาะกับตัวเองเสร็จก็พยักหน้าสรุปในใจ กวาดตามองหาช่องที่จะพอมองเข้าไปได้แล้ว
เป็นไปตามคาด! ชาลียืนเปลือยร่างหันข้างมา เผยให้เห็นกล้ามแขนเข้มๆ สีแทนของเขาเป็นอันดับแรกเลย
พอไล่สายตามองต่ำลงมาก็ … อู้หูววววววววว์
เธอเพิ่งเคยเห็นเจ้านั่นของจริงเป็นครั้งแรกจริงๆ นะ
รู้สึกตื่นเต้น หวั่นผวาจนแทบจะผงะถอยออกมาละ แต่ทว่าความอยากรู้อยากเห็นมันมีมากกว่า จึงทำให้ตนยืนเกาะประตูพรางตัวราวจิ้งจก นิ่งๆ ไว้ .. ไม่ถอย
กะด้วยสายตาเธอก็ไม่รู้จะเปรียบเทียบอย่างไรถูก รู้แต่ว่าความยาว ความใหญ่นี่ มือใหญ่โตกว้างๆ ของชาลีกำได้พอดิบพอดีแบบนี้คงไม่น่าจะธรรมดา ยิ่งพอไล่สายตาพิจารณาต่อไปที่เจ้าพุ่มขนสอบสวยพอประมาณไม่ได้รุงรังน่าแขยงอย่างที่เคยแอบสงสัยและนึกหวั่นกลัว หัวใจชารอตต์เต้นตึกตักๆ
เขาค่อยๆ ....
มีฉาก Hot very very Hot ตรงนี้จึงขอ CUT ค่ะ
บทที่ 5 : ดึกมากแล้ว
จำได้ตอนที่เคยได้ยินเพื่อนผู้ชายปากแมวคุยเล่นแซวๆ กันขำๆ เธอยังขำสนุกตอนมีเพื่อนคะนองปากสร้างมุกตลกมาคุยข่มกันยามใครขอตัวไปเข้าห้องน้ำว่า ‘เฮ้! เดินดีๆ นะ เดี๋ยวนายจะเหยียบหลานๆ’ ซึ่งเธอเองกับเพื่อนสาวๆ คนอื่นก็รู้ดีแหละว่าบรรดาเพื่อนชายจอมทโมนเหล่านี้เขาแค่คุยข่มกัน ทั้งๆ ที่จริงๆ คงไม่มีใครทำอะไรแบบนั้นในที่สาธารณะกันหรอก
แต่สำหรับชาลีตอนนี้น่ะ มันทำให้มุกตลกนั้นดูเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาทันที แต่แหม่ มันก็ไม่เห็นจะมีอะไรบ่งบอกอะไรเลยสักนิดก่อนหน้าเลยนี่สิ ว่าเขาจะเสร็จน่ะ เธอเองก็เห็นเขาทำมันอย่างเนิบๆ ช้าๆ กำลังมองเพลินๆ แต่บทจะเสร็จเขาดันเสร็จซะงั้น! ..
ชารอตต์เลยงงต่อไปว่าเธอควรจะอารมณ์ไหนดีกับเรื่องนี้
จะแสยงสยองก็ไม่ใช่ หรือจะให้ชอบก็คงไม่เชิง ..
ว้าวุ่น จนเห็นชาลีเอื้อมมือคว้าทิชชูซ้ำน้ำมาเช็ดทำความสะอาดมัน ก่อนจะเขยิบตัวไปเปิดฝักบัวเริ่มลงมืออาบน้ำ คราวนี้เขายืนหันหลังให้ เธอแอบลอบกลืนน้ำลายฝืดลงคอ วิธีอาบน้ำของเขาว่องไวผิดกับเธอที่ค่อนข้างลีลาเยอะแยะกว่า ที่กว่าจะพิถีพิถันนวดหน้า ขัดผิว ลงครีมถูตัวอยู่ตั้งนานละกว่าจะจบพิธี .. ชาลีเงยหน้าสระผม กลิ่นแชมพูหอมอวล จนเขาล้างฟอง เธอก็มองดูมันไหลไล่ไปตามร่างสวยสมชาย อิจฉาฝ่ามือใหญ่ๆ ที่เทสบู่เหลวแล้วถูไถไล่เรื่อยไปตามมัดกล้ามสวยๆ มองฟองสบู่ที่เกาะอยู่บนแผ่นหลังกว้าง มองเขายุกยิกอยู่ตรงนั้นของเขาอีกครู่หนึ่งจึงถอยตัวออกมา แอบถอนหายใจ
โอ๋ย .. ทำไมมันเป็นแบบนี้ ไม่รู้สิ!
。。。。。。。。。。。。。
ชาลีพาร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างสืบเท้าเข้ามาหาคนที่นั่งเหม่อมองดูดาวอยู่ริมระเบียงใกล้หน้าต่างห้องนั่งเล่น ดึกแล้วแต่ยังไม่ยอมไปนอน เขาเองเพิ่งตรวจงานเอกสารจากห้องทำงานเสร็จ ว่าจะแวะมาจิบไวน์ก่อนนอนก็บังเอิญมาเจอยัยหลานจอมยั่วคนนี้เข้าซะอีก
"เป็นอะไร ทำไมนั่งถอนหายใจเฮือกๆ อยู่คนเดียว?"
"ก็กลุ้มใจค่ะ" ถอนหายใจใส่เขาอีกเฮือกตาละห้อย
"อ้าว .. กลุ้มอะไร ไหนลองถามมาซิ เผื่อปู่จะช่วยแนะนำได้" ถามยิ้มๆ
"อยากรู้เทคนิคการจีบผู้ชายไทยที่อายุมากกว่าเยอะๆ อะค่ะ คุณปู่พอรู้ไหมคะ?"
"ห๊ะ! อะ .. อ้าว" ชายสูงวัยกว่าแทบสักลักกับคำถามที่คนถามมองมาทำตาแป๋วๆ
นึกในใจว่า .. โดนเข้าอีกแล้ว…
"ทำไมต้องมาถามล่ะ จู่โจมเลยสิ .. ปู่รออยู่"
กระแอมก่อนแกล้งทำเสียงดุๆ อ้อมแอ้มล้อ
"จริงหรือคะ คุณปู่น่ะ อย่าหลอก" หน้าตาจิ้มลิ้มดูจริงจังกับคำตอบยิ่ง
มองสาวน้อยที่ยื่นมือเล็กขาวนุ่มๆ เอื้อมถลามาเกาะแขนล่ำเขย่า แม้หัวใจจะเต้นแทบไม่เป็นส่ำ แต่ต้องท่องไว้ว่า …
โถ.. ทูนหัวของปู่ …
เอ้ย!! ไม่ใช่ … นี่ … หลานสาว
หลานสาวเราหนอ .. ล่อไม่ได้ .. เอ้ย! .. แตะต้องไม่ได้
ไม่งั้นฮานะต้องบินมาริบตัวหลานสาวสุดที่รักกลับญี่ปุ่นไปแน่ๆ …
แต่..
"ไม่หลอกหรอก จีบได้ แต่ตอนนี้ดึกละ ปู่คงต้องไปนอนก่อนล่ะ ความดันขึ้น เดี๋ยวพรุ่งนี้ปู่ตื่นแล้วค่อยมาจีบใหม่แล้วกันนะ อย่าเพิ่งถอดใจไปก่อนซะล่ะ โอเคไหม ฮึ เด็กดื้อ"
"อื้ออออ คุณปู่อะ ชอบเคาะกะลาเรื่อยเลย"
คนงอนปากยื่นๆ ชาลีขยี้กลุ่มผมนุ่มๆ เล่นก่อนถอนใจ เดินกลับเข้าห้องตนไป
เข้าห้องคงต้องสวดมนต์บทพระปาติโมกข์เท่าอายุสักสิบรอบอีกแล้วมังงานนี้
สงสัยคืนนี้คงจะข่มตาหลับยากอีกแล้วละมัง .. ชาลี …
โอ๊ย...ให้ตายสิ! ยัยหลานตัวร้ายนี่ก็ชั่งขยันยั่วซะจริงๆ ..
。。。。。。。。。。。。。
และแล้วในคืนถัดมา เจ้าของไร่กว้างที่เพิ่งเลิกงานกลับมา วันนี้คนเป็นปู่ในวัยหนุ่มกลับมาค่อนข้างดึกแล้วนิดหน่อย เพราะช่วงนี้งานที่ไร่ค่อนข้างยุ่ง ต้องไปคอยควบคุมดูแลการเก็บเกี่ยวผลิตผลให้ทันส่งเข้าโรงงานแปรรูปของคู่ค้า จนแทบจะไม่ทันเวลา ยิ่งฝนฟ้าอากาศมันเปลี่ยนแปลงบ่อยจริงในช่วงนี้ ดีที่เขามีหลานสาวมาดูแลเรื่องข้าวปลาอาหารและบ้านช่องให้สะอาดสะอ้านสบายใจหายห่วงในส่วนนี้ไป
แต่ทำไมวันนี้กลับมาถึงบ้าน ถึงยังไม่เห็นหน้าค่าตาคนดูแลบ้านแทนแม่บ้านที่ยังไม่กลับมาหวา ปกติเห็นถลาออกมาต้อนรับ น้ำท่ากาแฟและเสียงชวนคุย เล่าโน่นเล่านี้เจื้อยแจ้ว ประหลาดใจนิดหน่อย คิดว่าเดี๋ยวอาบน้ำเสร็จเขาจะแวะไปสักหน่อยดูว่าวันนี้ทำไมเงียบไป สงสัยไม่สบายอะไรหรือเปล่าหว่า?
ก๊อกๆ
"คุณปู่ขา .. คุณปู่"
ไม่รู้ตัวเลยนะว่าทำไมเขาถึงแทบจะผวาดีใจรีบก้าวยาวๆ ไปเปิดประตู แต่พอรู้ตัวเองทันก็ชะงัก ทำตีหน้าขรึมๆ
"หือ? .. มีอะไรจ๊ะ ชารอตต์"
พอเปิดประตูรับแล้วก็แทบจะผงะ
แม่สาวน้อยหัวหูมีแต่แชมพูฟูฟ่อง สวมเสื้อคลุมอาบน้ำกับประคองผ้าขนหนูมาเป็นอาวุธผืนหนึ่งเท่านั้นตอนนี้
"เครื่องทำน้ำอุ่นที่ห้องหนูมันเป็นอะไรไม่รู้ จู่ๆ น้ำไม่ไหล เนี่ยค่ะ ยังอาบไม่เสร็จ ผมยังไม่ได้ล้าง แย่จัง ยิ่งติดอาบน้ำอุ่นอยู่ด้วยค่ะ หนูขออาบน้ำที่ห้องคุณปู่ก่อนได้ไหมคะ พรุ่งนี้ค่อยเรียกใครมาซ่อม .. อุ้ย! แชมพูไหลเข้าตาแล้วค่ะ"
ยังไม่ทันสิ้นเสียง ‘ค่ะ’ แม่หลานสาวก็วิ่งปรู๊ดเข้าห้องน้ำเขาหายไปเฉยเลย ทำเอาชาลียืนเหวอ ก่อนเผลอตัวก้าวตามเด็กสาวไปติดๆ
จะห้ามก็ไม่ทัน ก็ในห้องนั้นมันดัน … เอ่อออออ
"อ้าย!! คุณปู่แอบดูหนังสือโป๊ด้วยหรือ?"
"คือ ไม่ใช่ .. เอ่อ .. ใช่ก็ได้ ..ก็แหม…มันเรื่องธรรมดาของผู้ชาย ชารอตต์ก็"
"หนูก็ไม่ได้ว่าอะไรนิ"
"เอ่อ...คือ" ยังยืนหันซ้ายหันขวาตะกุกตะกัก
"อุ้ย! ผมมันพันกันแล้วอะ ยุ่งแล้ว คุณปู่ขาแกะให้หน่อย~" อ่อยไม่เลิก
ชาลีเลยต้องเอื้อมมือไปช่วยขยี้ๆ ล้างศีรษะให้คนหัวทุยสวยๆ อย่างกล้าๆ กลัวๆ
กลัวใจตัวเองจะอดไม่ไหวน่ะสิ ไม่ใช่อะไร ก่อนจะร้อง..เฮ้ย!!
อุ้ย! คุณปู่เปียกหมดเลย ... งั้น .. ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ คุณปู่คงยังไม่ได้อาบน้ำ มาค่ะ อาบด้วยกันก็ได้ … เดี๋ยวหนูถูหลังให้"
"ม่ะ .. ไม่ได้!!" เขาตกใจ
"ทำไมอ่า? คุณปู่ไม่เคยอาบน้ำกะใครหรอ"
"เคย .. แต่มันไม่ใช่แบบนี้"
"ไม่ใช่แบบนี้แล้วแบบไหน?"
คนตะแบงแกล้งทำเป็นไร้เดียงสา และเขาเองก็พอรู้มาว่าที่ญี่ปุ่นมีออนเซ็นแบบเป็นห้องแช่น้ำอุ่น เข้าใช้ได้ทั้งชายหญิงรวมกันไม่แบ่ง ..
แต่ … เฮ้ย! .. มันใช่หรอ!!
"ชารอตต์เคยไปที่แบบนั้นด้วยหรอ" เขาถามตาขุ่นนิดๆ
"ไม่อะ .. ไม่เคย" คนผมยาวยุ่งเปียกลู่เซ็กซี่ส่ายศีรษะดุ๊กดิ๊ก
"นะค้าา~ หนูอยากถูหลังให้คุณปู่"
ทำปากจู๋ หน้าอ้อนๆ จนเขาเกือบเผลอใจอ่อนแล้ว
"ไม่ได้หรอก ชารอตต์อาบไปก่อน ปู่จะไปรอข้างนอก"
คนตัวสูงใหญ่ตัดใจ ใช้ขันติเข้าขย่ม .. เอ้ย! .. ข่ม!!
"ก็ด่ะ .. อาบคนเดียวก็ได้ แต่คุณปู่ห้ามปิดประตู .. กลัวปี๋!" เจ้าตัวทำเสียง
"ผีอะไรมันจะมาอยู่ในห้องปู่!" เจ้าของห้องกลุ้มใจ
"ผีมันกลัวปู่ แต่มันไม่กลัวหนูนิ" โก่งคอเถียง
ชาลีจนใจ เดินไปเปิดมินิบาร์นั่งรินเหล้ามายืนซดอยู่ตรงมุมริมระเบียง รอแม่เจ้าประคุณทำธุระตัวเองจนเสร็จ เดินเช็ดผมสวมเสื้อคลุมขนหนูสีชมพูออกมาเบียดกระแซะ ประจบอยู่ข้างๆ จนกลิ่นแชมพู ครีมอาบน้ำหอมฟุ้ง
สงสัยคืนนี้คงไม่พ้นโดนเด็กปล้ำแน่กู .. ผู้ชายหล่อล่ำนึกอยู่ในใจ
แม้จะไม่กล้าทำอะไรหล่อน แต่ก็อ่อนใจแล้วจริงๆ
เด็กอะไร แก่แดด เอาแต่ใจชะมัด!
ไม่พูด ไม่ไล่ ไม่ส่งสัญญาณใดๆ ทั้งสิ้น .. ก่อนพาตัวเองเดินเข้าห้องน้ำไปอีกคน
เดินออกมา ทว่าว่าสาวน้อยก็ยังนั่งคอยอยู่ที่เดิม
"คืนนี้จะนอนนี้ใช่ไหม?"
เขาเดินมาก้มตัวลง วางแขนคร่อมขังคนตัวเล็กที่นั่งเงยหน้ามองเขามาตาแป๋ว ดูก็รู้แล้วว่าเด็กสาวเองก็รู้ว่าเขาคิดอะไร
"คุณปู่จะอนุญาตไหมคะ?"
สาวน้อยพยักหน้า สบตาเขาไม่ลดละ แต่ทว่ามันก็ยังดูมีวี่แววกล้าๆ กลัวๆ
"ไม่กลัวปู่จริงๆ หรือ?"
"นิดหน่อยค่ะ"
ชาลีเผลอยิ้มออกมานิดๆ ในตายสิ! เขาชอบเด็กคนนี้ที่บางครั้งทำตัวเหมือนเด็ก แต่อย่างน้อยก็พูดอะไรตรงๆ จริงใจมากกว่าจะเจ้ามารยาร้ายลึกอย่างที่ผู้หญิงของเขาที่ผ่านๆ มาเป็นกันนี่ล่ะ
"กลัวอะไร?"
"ก็ .. ไม่เคยทำอย่างนี้กับใคร"
แววตาโหยละห้อย เหมือนอยากอ้อนวอนให้เขาเชื่อใจว่าตนไม่ได้พูดโกหก
"ไม่เคยอะไร?" ชาลีแกล้งไก๋
คราวนี้สาวน้อยก้มหน้าทำท่าอึกอักๆ
"ไม่มีประสบการณ์ค่ะ .. แต่คุณปู่ขา.." ไม่รู้จะพูดต่อไงดี
"จะให้ปู่สอนให้เอาไปใช้กับใคร?"
ดูเหมือนคนในวงแขนกลายๆ จะสะดุดลมหายใจไปเสี้ยววินาที ก่อนที่จะ ..
ผลัวะ!!
เสียงฝ่ามือนุ่มน้อยๆ ฟาดซัดใส่คนใบหน้าเข้มคม แกร่ง
อย่างไม่นึกไม่ฝันกันเลยจริงๆ ในตาเด็กสาววาวน้ำตา ชาลีเองก็ยังทั้งมึนทั้งงง
"ไม่นึกเลยนะคะ เสียใจที่สุด พรุ่งนี้หนูจะกลับญี่ปุ่น!"
พูดจบเด็กสาวก็ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี กะจะผลักร่างเขาหนีให้พ้นทาง แต่ชาลีไวกว่าทั้งๆ ยังไม่รู้เลยว่าจู่ๆ แม่สาวน้อยตรงหน้าพยศอะไรถึงพ่นไฟโมโหใส่เขาเต็มที่แบบนี้
"ปล่อยนะคะ .. ถอยไป!! จะไม่อยู่ที่นี่แล้ว เกลียดคุณปู่ เกลียด!!"
ทั้งทุบทั้งผลัก ทั้งหยิกตี แต่ชาลีนั้นยังงงจนเริ่มโมโห
"นี่ผีเข้าผีออกอะไรกัน คุยกันอยู่ดีๆ ผีบ้าตัวไหนเข้าสิง มานี่สิ มาคุยกันให้รู้เรื่อง จู่ๆ มาโกรธปู่ด้วยเรื่องอะไร อย่าทำเป็นเด็กเสียนิสัยนะชารอตต์ ปู่ไม่ชอบ!!" เขาตะคอก
ยื้อยุดฉุดข้อไม้ข้อมือกันจนผลักอีกฝ่ายเบียดติดโซฟาหนานุ่มตัวยาวที่เขาเอาไว้ใช้นั่งเล่นนอนเล่นดูทีวีในห้อง ที่เธอมานั่งจองรอเขาอยู่
"คุณปู่ดูถูกหนูนี่คะ ว่าจะมาหาประสบการณ์ไปนอนกับคนอื่น"
"ปู่ไม่ได้พูด!!"
[โปรดติดตามอ่านนิยายรสแซ่บจัดจ้านนี้กันได้จนจบเรื่องในแบบ ebook 👉 กดที่นี่จ้า 👈]
*☆∴。 คุยกันท้ายเรื่อง .. พ่วงเรื่อง Covid-19 。∴☆*
จะบอกว่า.. ช่วงนี้เรายังอยู่ในช่วงสภาวะ Covid -19 ระบาดไม่เลิกรานะคะ แถมยังคิดค้นหายาต้านไม่ได้ ดังนั้น เราทุกคนยังต้องรักษาระยะห่างระหว่างคู่รักกันอยู่ค่ะ .. และ .. โปรดจำให้ขึ้นใจ .. ว่า .. กับนิยายใต้เรื่องเหล่านี้มันถูกสร้างขึ้นมาในแบบเรื่องเล่าเรื่อยเปื่อย ที่ไม่ได้มีสาระมากพอจะไปอ้างอิงกับสิ่งใดได้เช่นเคยนะคะ และเพราะเนื้อหาการนำเสนอ จุดประสงค์ที่สร้างมาก็เพื่อให้อ่านกันเพลินๆ มันจึงเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีอยู่จริง หรือเกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด มันเป็นเพียงเรื่องที่สมมุติขึ้นมาไว้ใช้สำหรับนั่งอ่าน นอนอ่านกันในวันว่างๆ เท่านั้นค่ะ
ฉะนั้นจึงแน่ใจได้เถอะว่า ฉากบางฉากจึงเป็นเรื่องเล่าโลดโผน จนยากที่จะมามัวมองหาความสมเหตุสมผลใดได้ ยิ่งเพราะบางตอนที่เทียบกับใน 'ยุคสมัยโควิด-19 นี้' มันจึงแทบถือได้ว่าน่าจะเป็นเรื่องเล่า Fantasy พิสดารเกินกว่าจะเกิดขึ้นจริงนะคะ เพราะเราต้องยอมรับให้ได้ว่าเชื้อไวรัสตัวนี้มันได้เขามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์เราแล้วค่ะ แฮะๆ .. (หัวเราะแห้ง) เพราะฉะนั้นกรุณาอย่าไปทดลองเล่นแผลงๆ กันนะคะ .. โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่เชื้อไวรัสโควิดติดกันได้ง่ายแม้เพียงลมหายใจเช่นนี้ด้วยแล้ว (อันนี้จริงจัง)
อนึ่ง ที่นักเขียนจำเป็นต้องแจ้งชี้แจงเอาไว้ ณ ตรงนี้ก็เพราะเกรงว่าเผื่อบางทีจะมีนักอ่านท่านใดที่เข้าใจอะไรยากพลัดหลงผ่านเข้ามา ...
จึงมิได้มีเจตนาติติงผู้ใดเลยจริงๆ
รักเช่นเดิม..เพิ่มเติมความห่วงใย .. จาก .. ' แมงมุมใต้เตียง ' : writer ..
อย่าลืมติดตามผลงานใหม่ๆ ได้ที่ website นิยายใต้หมอน ของ 'แมงมุมใต้เตียง' นะคะ
https://sites.google.com/view/kor-na-konnan